ยูบีเอ็มเปิดตัวฟู้ดอินกรีเดียนส์เอเชีย 2015 ตั้งเป้าโต 25% ชี้ตลาดเอเชีย-อเมริกา มาแรง


 

ev240

บริษัท ยูบีเอ็มเอเชีย (ประเทศไทย) จำกัด เตรียมจัดงานแสดงเทคโนโลยีอุตสาหกรรมส่วนผสมอาหารและเครื่องดื่มแห่งเอเชีย หรือ ฟู้ดอินกรีเดียนส์เอเชีย 2015 (Food Ingredients Asia 2015) ระหว่างวันที่ 9–11 กันยายน 2558 ณ ไบเทค บางนา จัดใหญ่ฉลองการจัดงาน    ครั้งที่ 20 คาดงานโตกว่า25 % พร้อมดึงหน่วยงานรัฐ-เอกชนร่วมจัดกิจกรรมสนันสนุนผู้ประกอบการไทย คาดสร้างเงินสะพัดในอุตสาหกรรมอาหารกว่า 1,000 ล้านบาท ชี้เทรนด์อาหารน่าจับตามอง

 

 

ดึงหน่วยงานรัฐ – เอกชนจัดงานใหญ่ฉลองครบรอบ 20  ครั้ง Fi Asia 2015

 

นายมนู เลียวไพโรจน์ ประธาน บริษัท ยูบีเอ็ม เอเชีย (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า “งาน Fi Asia 2015 ที่จะจัดขึ้นนี้ ถือเป็นงานใหญ่ระดับเอเชียและมีความสำคัญต่อธุรกิจอาหารทั่วทั้งภูมิภาค ซึ่งงานได้รับความสนใจจากองค์กรด้านอาหารชั้นนำมาอย่างต่อเนื่อง และการจัดงานในครั้งนี้มีความพิเศษกว่าครั้งอื่นๆ เนื่องจากเป็นการจัดงานครั้งที่ 20 ซึ่งจัดต่อเนื่องกันเป็นเวลา 20 ปี และเวียนมาจัดที่ประเทศไทยอีกครั้งหลักจากที่ปีพ.ศ.2557 ไปจัดในอินโดนีเซีย ดังนั้นการจัดงานในครั้งนี้จึงมีความยิ่งใหญ่ ซึ่งมีผู้ประกอบการกว่า 650 บริษัทจาก 40 ประเทศทั่วโลกเพิ่มพื้นที่งาน 40% รองรับผู้ร่วมงานทั้งไทยและต่างประเทศ โดยได้รับการสนับสนุนจากหน่วยงานต่างๆ ได้แก่กระทรวงอุตสาหกรรม กลุ่มอุตสาหกรรมอาหาร สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย สถาบันอาหาร สมาคมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีทางอาหาร สมาคมอาหารแช่เยือกแข็งไทย และสำนักงานส่งเสริมการจัดการประชุมและนิทรรศการ

 

ดึงนักลงทุนอาเซียนหนุนผู้ประกอบการรายย่อยสร้างธุรกิจ

นายมนูยังกล่าวเสริมอีกว่างาน Fi Asia 2015 นอกจากจะเป็นโอกาสให้ผู้ประกอบการทั่วทั้งภูมิภาคอาเซียนได้เรียนรู้เทคโนโลยีใหม่ๆ จากทั่วทุกมุมโลกอย่างใกล้ชิด แล้วยังส่งผลให้เกิดการพัฒนาเทคโนโลยีและศักยภาพการผลิตของอุตสาหกรรมอาหารทั่วทั้งภูมิภาค ซึ่งจะเป็นปัจจัยสำคัญในการสนับสนุนให้ภูมิภาค ASEAN เป็นศูนย์กลางอาหารของโลกตามเป้าหมายที่วางไว้ โดยปีนี้ ยูบีเอ็มได้เพิ่มการประชาสัมพันธ์งานในต่างประเทศโดยการจัดโรดโชว์เพื่อเข้าถึงผู้ประกอบการในประเทศเพื่อนบ้านโดยตรง เช่น เวียดนาม พม่า อินโดนีเซีย มาเลเซีย และฟิลิปปินส์ นอกจากนี้ ภายในงานยังมีกิจกรรมให้ความรู้ที่เกี่ยวกับนวัตกรรมใหม่ๆ การตลาดและการลงทุน ซึ่งเหมาะสำหรับผู้ประกอบการรายย่อย (SMEs) หรือผู้ที่ต้องการลงทุนในธุรกิจอาหารอื่นๆ

 

แนะผู้ประกอบการใช้วิทยาศาสตร์-เทคโนโลยีเพิ่มมูลค่าสินค้ารับเทรนด์อาหารมาแรง        

ดร.ภาวินี ชินะโชติ นายกสมาคมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีทางอาหารแห่งประเทศไทย หรือ FoSTATกล่าวเสริมว่า ขีดความสามารถทางเทคโนโลยีของผู้ประกอบการอาหารไทยส่วนใหญ่แม้จะอยู่ในระดับที่ได้มาตรฐาน แต่ด้วยการแข่งขันที่รุนแรงในตลาดอาหาร และเทรนด์การบริโภคอาหารที่เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว ทำให้ผู้ประกอบการไทยต้องเร่งพัฒนาการวิจัยควบคู่ไปกับการพัฒนาเทคโนโลยีอาหาร ซึ่งเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่งต่อการแข่งขันในระดับสากล เพราะการนำวิทยาศาสตร์เข้ามาช่วยนั้นจะสามารถสร้างผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ที่ทั่วโลกต้องการและมีมูลค่าสูงขึ้น รวมถึงสามารถนำความรู้และเทคโนโลยีเหล่านั้นมาพัฒนากระบวนการผลิตให้มีต้นทุนต่ำลงและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากยิ่งขึ้นด้วย โดยในปีนี้ถือเป็นโอกาสอันดีที่ประเทศไทยจะเป็นเจ้าภาพในการจัดงานแสดงสินค้าและเทคโนโลยีส่วนผสมอาหารที่ใหญ่ที่สุดของเอเชีย ซึ่งผู้ประกอบการไทยสามารถเข้าศึกษาเทคโนโลยีจากบริษัทชั้นนำทั่วโลกที่จัดแสดงภายในงาน และนำเทคโนโลยีที่ได้ไปพัฒนาเพื่อเพิ่มศักยภาพการผลิต

 

สถาบันอาหารชี้เทรนด์อาหารเพื่อสุขภาพมาแรง         

นางอรวรรณ แก้วประกายแสงกูล รองผู้อำนวยการและรักษาการผู้อำนวยการสถาบันอาหาร หรือ NFI เปิดเผยว่า “ด้วยไลฟ์สไตล์ที่เปลี่ยนไปของคนในยุคปัจจุบันรวมถึงเทคโนโลยีที่เข้ามามีอิทธิพลต่อชีวิตประจำวันมากขึ้น ส่งผลต่อพฤติกรรมและค่านิยมในการบริโภคอาหารที่ค่อยๆ เปลี่ยนไปตามยุคสมัย ซึ่งทางสถาบันอาหารมองว่าธุรกิจอาหารที่จะประสบผลสำเร็จยังคงต้องปรับตัวตามเทรนด์ผู้บริโภค ซึ่งแนวโน้มผู้บริโภคในอนาคตยังคงใส่ใจอาหารที่เป็นทั้งกระแสหลัก เช่น อาหารเพื่อสุขภาพ รวมถึงกระแสทางเลือกใหม่ๆ ที่เพิ่มเข้ามา ได้แก่

อาหารเพื่อสุขภาพมีความสดใหม่ ผ่านการปรุงแต่งด้วยวัตถุดิบที่มิใช่ธรรมชาติให้น้อยที่สุด โดยมีรายงานตลาดอาหารโลกปี 2558 ระบุว่า ผู้บริโภคหันมาให้ความสนใจการรับประทานอาหารเพื่อควบคุมน้ำหนัก  และดูแลสุขภาพกันมากยิ่งขึ้น โดยเน้นผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมมาจากธรรมชาติ เน้นอาหารที่ให้โปรตีนสูง น้ำตาลน้อย และคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน ลดปริมาณความหวานและความเค็มในการปรุงอาหาร ทานอาหารที่อุดมไปด้วยไขมันดี มีส่วนช่วยในระบบทางเดินอาหาร  รวมถึง อาหารแบบเดิมที่ปรับรูปแบบการนำเสนอผลิตภัณฑ์ในลักษณะที่แตกต่างออกไป ผลิตภัณฑ์อาหารใหม่ๆ ที่เกิดจากการประยุกต์อาหารนานาชาติเข้ากับอาหารท้องถิ่น อาหารที่ผลิตได้ในท้องถิ่น ภายใต้ concept “กินอาหารตามฤดูกาล” อาหารมังสวิรัติ/อาหารเจ ตามแนวโน้มผู้บริโภคอาหารที่ไม่ทานเนื้อสัตว์ที่เพิ่มขึ้น

 

ธุรกิจส่งออกหวังตลาดเอเชีย – อเมริกา ขยายตัว 

ในปีนี้ อุตสาหกรรมอาหารของไทย ได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจโลกที่ซบเซา ทำให้ผู้บริโภคระมัดระวังการใช้จ่าย ประกอบกับราคาสินค้าเกษตรที่ตกต่ำ นอกจากจะทำให้เกษตรกรไทยมีรายได้ลดลง ส่งผลกระทบต่อตลาดอาหารภายในประเทศแล้ว ราคาสินค้าเกษตรอาหารที่ลดลงยังส่งผลทำให้รายได้จากการส่งออกลดลงตามไปด้วย ซึ่งทำให้แนวโน้มการส่งออกอาหารปี 2558 น่าจะอยู่ในระดับใกล้เคียงกับปี 2557 คือมีมูลค่าส่งออกราว 9 แสนล้านบาทโดยภาพรวมการส่งออกสินค้าอาหารไทยไปยังตลาดต่างๆ ในช่วง 5 เดือนแรก ปี 2558 ส่วนใหญ่หดตัวลง แต่ก็มีบางตลาดที่ยังขยายตัวเพิ่มขึ้นได้แก่CLMV สหรัฐฯ และจีน

งาน Fi Asia 2015  จะจัดขึ้นในวันที่ 9-11 กันยายน 2558  ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา  โดยในงานจะมีการจัดแสดงนวัตกรรมส่วนผสมอาหารอย่างครบวงจร พร้อมทั้งส่วนInnovation Zone ที่จัดแสดงสุดยอดนวัตกรรมอาหารทั่วโลก นอกจากนี้ ภายในงานยังมีส่วนของการสัมมนาต่างๆ อาทิ งานสัมมนาด้านการวิจัยเทคโนโลยีและองค์ความรู้เกี่ยวกับอาหารนานาชาติ ในหัวข้อ “ New Functional Ingredients For Healthy Living” ที่จัดโดยสมาคมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีอาหารแห่งประเทศไทย (FoSTAT) หรืองานสัมมนาอาหารฮาลาลนานาชาติ จัดโดยสถาบันอาหาร  สัมมนาภาพรวม และแนะนำแผนมาตราฐานอาหาร BAP เบื้องต้น โดยสมาคมอาหารแช่เยือกแข็งไทยรวมถึงการสัมมนาแนวโน้มธุรกิจอาหารอื่นๆ อีกมากมาย ผู้สนใจเข้าร่วมงานสามารถลงทะเบียนล่วงหน้าและสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.fiasia-thailand.com