Day2 “ELLE Fashion WeekFall/Winter 2017” @ CentralWorld Day2

รายละเอียดคอลเลคชั่น 14 โชว์ 21 ดีไซเนอร์

 ELLE Fashion WeekFall/Winter 2017” @ CentralWorld

 

วันพฤหัสบดีที่ 31 สิงหาคม 2560

รอบ 17.00 น.

ASV (เอ เอส วี)

พลพัฒน์ อัศวะประภา

“At The Ballet”  คอลเลคชั่นที่แสดงถึงความอ่อนหวานแบบเฟมินีน (Feminine) และความแข็งแกร่งอย่างมาสคิวลีน (Masculine) ผสมผสานไปกับศิลปะการเต้นชั้นสูงอย่าง บัลเล่ต์ (Ballet) ภายใต้แกนนำของ อลิเซีย อลอนโซ่  (Alicia Alonso) ผู้ปฏิวัติและก่อตั้งคณะบัลเล่ต์แห่งชาติของคิวบา รายละเอียดที่อ่อนช้อยละเมียดละไม ควบคู่ไปกับความแข็งแกร่งของจิตวิญญาณที่ซ่อนอยู่ รวมไปถึงเครื่องแต่งกายที่เข้าถึงง่ายต่อการเคลื่อนไหว ผนวกกับแรงบันดาลใจจากศิลปะเค้าโครงที่เป็นต้นกำเนิดของศิลปะร่วมสมัย โดยนำองค์ประกอบทั้งหมด มาเรียงร้อยเป็นเรื่องราวเพื่อสร้างมุมมองใหม่ของหญิงสาวในแบบฉบับของ ASV

          สำหรับโครงสร้างชุดในครั้งนี้ ถูกถ่ายทอดผ่านโครงเสื้อคลาสสิคที่ปรากฏให้เห็นบนคีย์ลุค เช่น เสื้อไหล่เดียว (One shoulder) ที่สวมใส่คู่กับกางเกงขาบาน (Flared trousers) โดยได้แรงบันดาลใจจากชุดของ
นักบัลเล่ต์ที่สวมใส่ทูทู (Tutu) มาดัดแปลงเป็นโครงสร้างชุดในรูปแบบต่างๆ ผสมผสานกันในแบบฉบับของ Asv อาทิ กางเกงและกระโปรงในทรงตรง (Straight) ทรงเอ (A-Line) รวมไปถึงเสื้อคอวี (Deep V Neck) เสื้อคอกว้าง (Wide neck) นอกเหนือจากนั้นการนำเทคนิคเสื้อสปอร์ตแวร์ (Sportwear) มาใช้ก็เป็นอีกหนึ่งโครงสร้างสำคัญของคอลเลคชั่น เช่นการเพิ่มลูกเล่นอย่างหมวกฮู้ด (Hood) นำมิ๊กซ์กับเทรชโค้ท (Trench Coat) สไตล์สตรีทแวร์ (Streetwear) ที่สามารถสวมใส่ได้ในชีวิตประจำวัน (Day to Night) เพื่อเพิ่มลุคความเท่ ความสนุก ในแบบ “Boyish Feminine” ให้กับคอลเลคชั่นฤดูใบไม้ร่วงและฤดูหนาวมากยิ่งขึ้น

 

รอบ 19.00 น.

TUBE GALLERY (ทูบว์ แกลลอรี่)

ศักดิ์สิทธิ์ พิศาลสุพงศ์ และพิสิฐ จงนรังสิน

ครั้งนี้ TUBE GALLERY มาในคอลเลคชั่นThe Portrait of a Lady ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากผลงานของกุสตาฟ คลิมต์ (Gustav Klimt) จิตรกรและมัณฑนากรชาวออสเตรียในช่วงปลายคริสต์ศตวรรษที่ 19 สร้างสรรค์เป็นเสื้อผ้าผู้หญิงแบบ Occasional Wear และผู้ชายแบบ Ready to wear โดยนำทั้งลายที่อยู่ในภาพเขียนมาถ่ายทอดลงไปบนชิ้นงาน รวมทั้งนำอารมณ์ของภาพ วิธีการใช้สี และวิธีการใช้ลายเส้นมาใช้กับตัวเสื้อผ้า ซึ่งทำโครงให้เป็นแบบ Maximum Volume คือใหญ่กว่าปกติ

ในส่วนของโทนสีมีทั้งสีดำขาว น้ำเงินทอง ซึ่งเป็นสีที่ศิลปินใช้อยู่แล้ว นอกจากนี้ยังมีสีเหลือง ชมพูม่วง ซึ่งมาจากลายดอกไม้ในภาพวาด โดยดีไซเนอร์ได้ดึงลวดลายบนภาพวาดมาเป็นลายบนเสื้อผ้าด้วยเทคนิคตัดต่อ เพื่อให้ได้ลายเส้นใกล้เคียงกับที่ศิลปินใช้มากที่สุด

 

รอบ 21.00 น.

EVERYDAY KARMAKAMET (เอฟเวอรี่เดย์ คาร์มาคาเมท)

ณัทธร รักษ์ชนะ

“การมีชีวิตของมนุษย์ธรรมดาๆคนหนึ่งท่ามกลางจักรวาลอันกว้างใหญ่นั้น มีสิ่งใดเป็นภารกิจที่สำคัญที่สุดที่เราจะพิชิตมันให้สำเร็จในช่วงชีวิตที่มีอยู่ หากลองจินตนาการออกไปไกลสุดลูกหูลูกตาเหนือท้องฟ้า ผ่านชั้นบรรยากาศ สู่ห้วงอวกาศ ท่ามกลางดวงดาวนับพันแสน เราออกเดินทางไปเพื่อแสวงหาค้นพบสิ่งใดกัน….”

นั่นคือคำถามที่แบรนด์น้องใหม่อย่าง EVERYDAY KARMAKAMET นำมาเป็นแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์คอลเลคชั่น “This Mission Is Too Important” ประจำ A/W 2017 โดยหยิบยกเอาเรื่องราวของมนุษย์ที่ตกอยู่ในช่วงเวลาของความทุกข์ ความเศร้าโศกอันทำให้นึกย้อนกลับไปสู่ช่วงเวลาแสนสุขที่เคยเกิดขึ้นในอดีตและวัยเยาว์มาเป็นเนื้อหาหลัก นำเสนอผ่านคอนเซ็ปต์ cut (bad things) and add ( good things ) ซึ่งตีความ bad things ออกมาเป็นสิ่งที่ดูจริงจังและซีเรียสเปรียบดั่งชุดสูทชุดทำงานและ good things คือการเล่นสนุกแบบเด็กๆ อย่างเสื้อผ้ากีฬานอกจากนี้ยังแทนค่าความเครียดความกดดัน ผ่านเสื้อผ้าที่เข้ารูป และแสดงออกถึงการปลดปล่อยด้วยรูปแบบที่บานและใหญ่ออก

คอลเลคชั่นนี้ใช้วัสดุหลักอันเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์นั่นคือผ้าอ๊อกซ์ฟอร์ดผ้าลูกฟูกผ้าเชิ้ตยีนส์รวมไปถึงการนำวัสดุที่สดใหม่อย่างผ้าร่มซาตินผ้ากีฬา มาร่วมรังสรรค์ผ่านโครงสีหลักอย่างน้ำเงินเขียวชมพูเบจรวมไปถึงกลุ่มสีที่มีความเป็นยุค 60’s – 70’s เพื่อให้มีกลิ่นอายความสปอร์ตวินเทจด้วย