การบินไทยร่วมกับไทยสมายล์ จับมือการท่องเที่ยวมาเลเซีย เตรียมเปิดเที่ยวบินปฐมฤกษ์ บินตรงทุกวัน กรุงเทพ – โคตาคินาบาลู 26 มี.ค. นี้

Kota_1 (1) Kota_3 (1)

การบินไทยร่วมกับไทยสมายล์ จับมือการท่องเที่ยวมาเลเซีย

เตรียมเปิดเที่ยวบินปฐมฤกษ์ บินตรงทุกวัน กรุงเทพ โคตาคินาบาลู 26 มี.ค. นี้

ชวนนักท่องเที่ยว สัมผัสประสบการณ์ Exotic Getawayสู่หลากหลายเส้นทางบินในอาเซียน

การบินไทยร่วมกับสายการบินไทยสมายล์จับมือการท่องเที่ยวมาเลเซีย เตรียมเปิดเส้นทางบินตรง                กรุงเทพ – โคตาคินาบาลู รัฐซาบาห์ ประเทศมาเลเซีย โดยจะเริ่มเที่ยวบินปฐมฤกษ์วันที่ 26 มีนาคม 2560 นี้ ตอกย้ำการขยายเส้นทางบินและเครือข่ายเชื่อมต่อการบินด้วยมาตรฐานบริการยอดเยี่ยมระดับโลก มุ่งรองรับกลุ่มเป้าหมายนักท่องเที่ยว นักผจญภัยระดับกลางถึงระดับบนที่ต้องการความสะดวกสบายจากการเดินทางด้วยมาตรฐานการให้บริการเต็มรูปแบบ (Full Service) ที่ดีที่สุด

 

นายวิวัฒน์  ปิยะวิโรจน์ ผู้ช่วยรองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ สายการพาณิชย์ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ความร่วมมือในการเปิดเส้นทางบินกรุงเทพ-โคตาคินาบาลู ระหว่างการบินไทยและไทยสมายล์ในครั้งนี้ ถือเป็นการประกาศความร่วมมืออย่างเป็นทางการครั้งสำคัญอีกครั้งหนึ่ง เพื่อให้เห็นรูปแบบธุรกิจที่กำลังดำเนินไปในฐานะสายการบินบริษัทแม่และสายการบินบริษัทลูกที่มีการขยายเส้นทางบินใหม่และเชื่อมต่อเครือข่ายการบินอย่างเต็มรูปแบบ โดยการให้บริการเส้นทางบินครั้งนี้ การบินไทยจะนำเส้นทางดังกล่าวเข้าเป็นส่วนหนึ่งของระบบการขายและการทำการตลาดของการบินไทย  ซึ่งรูปแบบธุรกิจลักษณะนี้จะเกิดขึ้นในอีกหลายเส้นทางบินของการบินไทยและไทยสมายล์ ทั้งในประเทศ และระหว่างประเทศ  โดยความร่วมมือในการดำเนินธุรกิจดังกล่าวนี้จะทำให้เกิดความสะดวกสบายแก่ผู้โดยสารที่ต้องเดินทางระหว่างเมืองต่างๆ ที่ การบินไทย และไทยสมายล์ ทำการบิน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเส้นทางบินตรงสู่โคตาคินาบาลู ซึ่งจะนำไปสู่การสร้างรายได้และการเติบโตให้กับทั้งสองสายการบินอย่างยั่งยืน”

 

กัปตันวรเนติ หล้าพระบาง รักษาการประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายการบินไทยสมายล์ เปิดเผยว่า สายการบินไทยสมายล์ ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของการบินไทย สายการบินแห่งชาติ มีความภูมิใจอย่างยิ่งที่ได้เปิดบริการเส้นทางบินใหม่สู่เมืองโคตาคินาบาลู ประเทศมาเลเซีย เมืองท่องเที่ยวสำคัญแห่งภูมิภาคอาเซียน ที่ได้รับการกล่าวขานถึงในเรื่องของความสมบูรณ์ของธรรมชาติ โดยเส้นทางนี้จะมีการจัดจำหน่ายบัตรโดยสารโดยการบินไทย และปฏิบัติการบินโดยไทยสมายล์ เริ่มให้บริการเที่ยวบินแรกในวันที่ 26 มีนาคม 2560 การเปิดเส้นทางบินใหม่สู่โคตาคินาบาลูในครั้งนี้ ถือเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางที่สำคัญในเชิงยุทธศาสตร์สำหรับเราในภูมิภาคอาเซียน ซึ่งการบินไทยและไทยสมายล์กำลังดำเนินการที่จะขยายการเติบโต เพื่อพัฒนาเครือข่ายเชื่อมโยงเส้นทางระหว่างประเทศให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น ยิ่งไปกว่านั้นเรายังมุ่งมั่นที่จะเพิ่มทางเลือกให้แก่ลูกค้าของเรา ให้ได้มีโอกาสเดินทางไปในสถานที่ใหม่ๆ ซึ่งเรามั่นใจอย่างยิ่งว่า ชื่อเสียงที่ดีเรื่องการให้บริการที่เป็นเลิศของเรา จะทำให้ทั้งสองสายการบินขึ้นเป็นผู้นำตลาดในภูมิภาค ในอนาคตอันใกล้นี้อย่างแน่นอน กัปตันวรเนติ กล่าว

 

 

สำหรับเที่ยวบิน กรุงเทพ – โคตาคินาบาลู จะเปิดให้บริการทุกวัน โดยจะเริ่มตั้งแต่วันอาทิตย์ที่ 26 มีนาคม 2560 ซึ่งให้บริการชั้นโดยสาร 2 คลาสได้แก่ “Premium Economy Class” หรือ “Smile PLUS Class” ที่ให้พื้นที่โดยสารกว้างขวางสะดวกสบายกว่า และ “Smile Class” ชั้นโดยสารที่ให้ความคล่องตัว โดยผู้โดยสารทั้งสองคลาส จะได้รับน้ำหนักสัมภาระถึง 30 กิโลกรัม และ 20 กิโลกรัมตามลำดับ สำหรับผู้โดยสารที่เดินทางใน Premium Economy Class จะได้รับสิทธิ์ Priority ในการรับกระเป๋าเดินทางก่อน ทำการบินโดยเครื่องบินแอร์บัส A320-200 ที่พร้อมพรั่งไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกอย่างครบครัน สัมผัสประสบการณ์ความบันเทิงในเที่ยวบินที่เหนือกว่า ทั้งยังอิ่มอร่อยกับอาหารและเครื่องดื่มที่คัดสรรมาเป็นพิเศษเพื่อผู้โดยสารโดยเฉพาะ และสำหรับผู้โดยสารนักผจญภัยที่มีสัมภาระมาก ทางสายการบินฯ ยังให้น้ำหนักเพิ่ม 10 กิโลกรัมจากน้ำหนักปกติ สำหรับสัมภาระโหลดใต้ท้องเครื่องที่เป็นอุปกรณ์การปีนเขาและอุปกรณ์ดำน้ำอีกด้วย ผู้สนใจสามารถซื้อบัตรโดยสารในราคาเริ่มต้นที่ 3,435  บาทต่อเที่ยว (ราคารวมทุกอย่างแล้ว) พร้อมทั้งสะสมไมล์กับ Royal Orchid Plus

 

นายอับดุล ฮาริส ฮาดี้ ผู้อำนวยการ องค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวมาเลเซียหรือการท่องเที่ยวมาเลเซียประจำประเทศไทย กล่าวว่า “ปีนี้การท่องเที่ยวมาเลเซียตั้งเป้าดึงดูดนักท่องเที่ยวชาวไทยถึง 1.75 ล้านคน เพื่อเปิดประสบการณ์ในประเทศเพื่อนบ้านอย่างมาเลเซียที่มีกิจกรรมสร้างประสบการณ์ที่หลากหลาย โดยช่วงเดือนมกราคม-ตุลาคม 2559 ที่ผ่านมา มาเลเซียได้ต้อนรับนักท่องเที่ยวชาวไทยจำนวน 1.47 ล้านคน เพิ่มขึ้น 34.4% จาก 1.09 ล้านคนในปี 2558 โดยอัตรานักท่องเที่ยวไทยโตเป็นอันดับหนึ่งจากจำนวนนักท่องเที่ยวโดยรวม ดังนั้น เราจึงเชื่อมั่นว่า ด้วยศักยภาพด้านการท่องเที่ยวของโคตาคินาบาลู พร้อมกับการเดินทางที่สะดวกสบายโดยสายการบินไทยและไทยสมายล์ จะช่วยเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวจากประเทศไทยเข้าสู่รัฐซาบาห์ ประเทศมาเลเซียได้อย่างแน่นอน”

 

เมืองโคตาคินาบาลู พร้อมแล้วที่จะให้นักเดินทางชาวไทยไปสัมผัสประสบการณ์ใหม่ยังดินแดนแห่งความสมบูรณ์ของแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติและวัฒนธรรม อาทิ อุทยานแห่งชาติคินาบาลูที่ทุกท่านจะได้สูดอากาศเย็นสดชื่นบริสุทธิ์ท่ามกลางพืชพันธุ์นานาชนิด ชมพันธุ์ไม้แปลกตาอย่างหม้อข้าวหม้อแกงลิง กล้วยไม้ป่า และดอกมอร์นิ่งกลอรี่ ส่วนนักผจญภัยที่รักความ   ท้าทายก็สามารถเลือกปีนพิชิตยอดเขาสูงกว่า 4,095 เมตร ว่ากันว่าที่นี่คือด่านแรกที่ปราบเซียน ใครจะไปพิชิตเอเวอร์เรสต้องผ่านที่นี่ก่อนเท่านั้น

 

นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรมล่องแม่น้ำคลิอาสชมลิงจมูกยาวแสนซน ซึ่งได้รับเลือกให้เป็นมาสคอทของการท่องเที่ยวมาเลเซีย การเยี่ยมชมวิถีชีวิตหมู่บ้านชนเผ่ามารีมารี และทัวร์ 5 เกาะในอุทยานทางทะเลทุนกูอับดุลราห์มัน (Tunku Abdul Rahman Marine Park) ที่นั่งเรือสปีดโบ้ทออกจากชายฝั่งเพียง 10 นาทีก็จะได้ดื่มด่ำกับน้ำทะเลใสพร้อมหาดทรายขาว นักท่องเที่ยวยังสามารถสนุกสนานกับการชิมช้อปตามตลาดต่างๆ ย่านใจกลางเมืองโคตาคินาบาลู อาทิ ตลาดอาหารทะเลทั้งแบบสดและแห้ง ตลาดสินค้าพื้นเมือง ตลาดเช้าวันอาทิตย์ รวมถึงตลาดของกินยามค่ำคืน

 

 

 

 

จองตั๋วเดินทางกับสายการบินไทยและสายการบินไทยสมายล์

http://www.thaiairways.com/

https://www.thaismileair.com/

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ทางเฟสบุ๊คการท่องเที่ยวมาเลเซียประจำประเทศไทย

https://www.facebook.com/malaysia.travel.th/

 

เกี่ยวกับสายการบินไทย

บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เป็นรัฐวิสาหกิจในสังกัดกระทรวงคมนาคม และเป็นบริษัทมหาชนจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยตั้งแต่ปี พ.ศ. 2534  โดยมีกระทรวงการคลังเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่เกินกว่าร้อยละ 50 บริษัทฯ ดำเนินธุรกิจสายการบินที่ให้การบริการขนส่งผู้โดยสาร สินค้า พัสดุภัณฑ์ และไปรษณียภัณฑ์ โดยทำการขนส่งเชื่อมโยงเมืองหลักของประเทศไทยไปยังเมืองต่าง ๆ ทั่วโลก ทั้งแบบเที่ยวบินประจำ เที่ยวบินเช่าเหมาลำ และส่งผ่านเครือข่ายพันธมิตรการบินโดยมีท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเป็นศูนย์กลางเครือข่ายเส้นทางการบิน สายการบินฯ ยังใส่ใจในเรื่องความปลอดภัย ความสะดวกสบาย และการบริการที่มีคุณภาพ  ดำเนินงานในฐานะที่เป็นสายการบินแห่งชาติ เป็นตัวแทนของประเทศไทยในการดำรงรักษาและเพิ่มพูนสิทธิด้านการบิน พร้อมร่วมส่งเสริมและพัฒนาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ทั้งนี้ บริษัทฯ ยังมุ่งเผยแพร่วัฒนธรรม ขนบธรรมเนียมประเพณี และเอกลักษณ์ของประเทศไทย สู่สายตาชาวโลกอย่างต่อเนื่อง

 

เกี่ยวกับสายการบินไทยสมายล์

สายการบินไทยสมายล์ เป็นสายการบินลูกของ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ดำเนินธุรกิจสายการบินภูมิภาคในระยะพิสัยใกล้และระยะพิสัยกลาง ภายใต้รหัสสายการบิน “WE” และมีเป้าหมายเป็นสายการบินภูมิภาคชั้นนำของทวีปเอเชีย ไทยสมายล์เป็นสายการบินฟูลเซอร์วิส ที่มุ่งเน้นในมาตรฐานการให้บริการที่เยี่ยมยอดควบคู่ไปกับความคุ้มค่าของราคา เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้านักเดินทางระยะสั้น แต่ขณะเดียวกัน ยังคงให้ความสะดวกสบายสูงสุด สำหรับผู้โดยสารที่ต้องการบริการที่เป็นเลิศ สายการบินไทยสมายล์ให้บริการด้วยเครื่องบินลำตัวแคบ (Narrow-body Fleet) จำนวน 20 ลำ โดยมีฐานปฏิบัติการบินที่สนามบินสุวรรณภูมิ ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา สายการบินไทยสมายล์ได้มีการปรับเปลี่ยนกลยุทธ์การให้บริการในหลากหลายมิติเพื่อสอดรับกับความต้องการของนักเดินทาง โดยปัจจุบันเรามีแนวคิดหลักในการให้บริการ คือ  FLY SMART, FLY SABAI, FLY THAI SMILE.

ปัจจุบัน สายการบินไทยสมายล์ให้บริการ 10 เส้นทางภายในประเทศ ได้แก่ เชียงใหม่ ภูเก็ต ขอนแก่น เชียงราย หาดใหญ่ อุบลราชธานี อุดรธานี สุราษฎร์ธานี นราธิวาส และกระบี่ นอกจากนี้ ไทยสมายล์ยังให้บริการเส้นทางข้ามภาคระหว่างเชียงใหม่และภูเก็ต พร้อม 11 เส้นทางบินต่างประเทศสู่ เสียมราฐ, ปีนัง, ฉางซา, ฉงชิ่ง, คยา, พาราณสี, ชัยปุระ, ลัคเนา, มัณฑะเลย์, เจิ้งโจว และโคตาคินาบาลู โดยมีแผนที่จะเพิ่มความถี่การบินในเส้นทางในประเทศและเปิดตัวเส้นทางบินใหม่ระหว่างประเทศต่อไป

 

 

 

 

เกี่ยวกับองค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวมาเลเซียหรือการท่องเที่ยวมาเลเซียประจำประเทศไทย

องค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวมาเลเซียหรือการท่องเที่ยวมาเลเซียประจำประเทศไทย เป็นหน่วยงานภายใต้การกำกับการของกระทรวงการท่องเที่ยวและวัฒนธรรมประเทศมาเลเซีย การท่องเที่ยวมาเลเซียมีเป้าหมายหลักในการส่งเสริมและประชาสัมพันธ์ประเทศมาเลเซียในทุกระดับ การท่องเที่ยวมาเลเซียได้เติบโตอย่างก้าวกระโดดนับแต่การก่อตั้งและขึ้นมาเป็นอีกหน่วยงานด้านการท่องเที่ยวที่สำคัญในระดับระหว่างประเทศ ในปี 2556 มาเลเซียต้อนรับนักท่องเที่ยว 25.7 ล้านคนคิดเป็นรายได้ 650.4 ล้านบาท ทำให้การท่องเที่ยวเป็นอุตสาหกรรมทำเงินให้กับประเทศใหญ่เป็นลำดับที่ 2 และยังถือเป็นลำดับที่ 6 ของรายได้มวลรวมประชาชาติ

 

ประเทศมาเลเซียเฉลิมฉลองการก้าวเข้าสู่ปีที่ 4 ของปีแห่งการท่องเที่ยวมาเลเซีย 2014 (Visit Malaysia Year VMY 2014) ภายใต้ธีม หนึ่งมาเลเซียที่สุดแห่งเอเชียกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวมาเลเซียได้ดำเนินมาต่อเนื่องกับแคมเปญ MALAYSIA YEAR OF FESTIVALS (MyFEST) 2015 พร้อมธีม การเฉลิมฉลองแบบไม่มีสิ้นสุดที่กระตุ้นเน้นย้ำความหลากหลายแห่งเทศกาลที่เฉลิมฉลองภายใต้สังคมพหุวัฒนธรรม แคมเปญทั้งคู่เปรียบดังปัจจัยหลักที่จะขับเคลื่อนการท่องเที่ยวของประเทศให้ไปสู่ความสำเร็จที่ตั้งเป้าหมายไว้ในการส่งเสริมให้นักท่องเที่ยวจากต่างประเทศเดินทางมาประเทศมาเลเซียได้ตามเป้าหมาย 36 ล้านคนและมีรายได้จากการท่องเที่ยวเป็นเงิน168 พันล้านมาเลเซียริงกิตในปี พ.ศ. 2563 ตามแผนการท่องเที่ยว NKEA (National Key Economic Area).  

 

แผนการท่องเที่ยว NKEA อันเป็นความร่วมมือระหว่างกระทรวงการท่องเที่ยวและวัฒนธรรม ภาครัฐอื่นๆรวมถึงภาคเอกชนยังคงร่วมมือกันพัฒนาเพื่อทำให้มาเลเซียคือจุดหมายปลายทางชั้นนำของนักท่องเที่ยว เป้าหมายที่ตั้งไว้ตามแผนดังกล่าวจะประสบความสำเร็จได้โดยการดำเนินโครงการ Entry Point Projects (EPPs) ทั้ง 12 โครงการภายใต้ธีมทั้ง 5 อันได้แก่ Affordable Luxury (ความหรูหราที่สัมผัสได้); Nature Adventure (การผจญภัยในธรรมชาติ); Family Fun (ความหฤหรรษ์กับครอบครัว); Events (งานเทศกาลสุดอลังหลากหลาย), Entertainment (ความสนุกและบันเทิง), Spa and Sports (สปาและกีฬา); and Business Tourism (การท่องเที่ยวเชิงธุรกิจ).