ททท. ภาคตะวันออกโชว์รายได้หลักแสนล้าน ขานรับนโยบายไทยแลนด์ 4.0 รับมือระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก EEC พร้อมกางแผนที่สร้างที่จอดเรือสำราญ รับรายได้ครบ 3 ขา เกษตร อุตสาหกรรม ท่องเที่ยว

portrait_คุณกฤษฎา

นายกฤษฎา รัตนพฤกษ์  ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคตะวันออก การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เผยว่า   “ปี 2559 รายได้จากการท่องเที่ยวของภาคตะวันออกรวม 312,991,000   บาท (สามแสนหนึ่งหมื่นสองพันเก้าร้อยเก้าสิบเอ็ดล้านบาท) แบ่งออกเป็นรายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติ 184,896,000,000  บาท (หนึ่งแสนแปดหมื่นสี่พันแปดร้อยเก้าสิบหกล้านบาท)   รายได้จากนักท่องเที่ยวชาวไทย 128,095,000,000  (หนึ่งแสนสองหมื่นแปดพันเก้าสิบห้าล้านบาท)  รายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติคิดเป็น 59 %   รายได้จากนักท่องเที่ยวชาวไทยคิดเป็น 41 %   แนวทางในการทำงานของททท. ภาคตะวันออกนั้นต้องการรักษารายได้ให้สม่ำเสมอกันในทุก ๆ เดือน   ด้วยการเจาะกลุ่มคนทำงานต่างชาติ กลุ่มนักท่องเที่ยวรายได้สูง  ด้วยการขยายตัวของสินค้าและบริการเพื่อที่จะให้เกิดการท่องเที่ยวซ้ำ เพิ่มเรื่องอาหารอร่อย การรับประทานอาหารพื้นถิ่น อาหารสุขภาพพร้อมบรรยากาศที่ดี  และการเลือกทานอาหารในย่านถนนคนเดินในพัทยาใต้ ย่านบางแสน และชุมชนบางเสร่ ส่วนรายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติส่วนใหญ่มาจากชาวจีน  รัสเซีย อินเดีย ยุโรป  จากการที่ภาคตะวันออกมีรายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติที่มากกว่านักท่องเที่ยวชาวไทยทำให้ทางกองภาคตะวันออก ต้องมีแผนการทำตลาดอยู่ตลอดเวลา  หากเมื่อชาติใดชาติหนึ่งเกิดวิกฤตก็จะมีนักท่องเที่ยวจากแหล่งอื่นมาทดแทน  ปัจจุบันได้ทำการตลาดกับชาวเอเชียให้เข้มข้นมากขึ้น อย่างไรก็ตามยังมีนักท่องเที่ยวอีกกลุ่มหนึ่งที่เข้ามาพักในภาคตะวันออกนานอยู่ในช่วง 7-10 วัน กลุ่มนี้เป็นนักท่องเที่ยวยุโรปและเป็นนักท่องเที่ยวที่ใช้จ่ายสูง   นอกจากแผนต่างๆ  ที่กล่าวมาแล้วตอนนี้รัฐบาลกำลังศึกษาเรื่องเรือสำราญ  การทำตลาด ท่าจอดเรือ  การหาจุดจอดเรือที่สะดวกปลอดภัย ด้านการเพิ่มรายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติ ”

“การที่จะรองรับนักท่องเที่ยวจากเรือสำราญได้นั้น ต้องมีท่าเรือที่มีความสมบูรณ์แบบ ซึ่งเป็นหนึ่งในแผนงานของรัฐบาล  ในต่างประเทศได้สร้างเรือสำราญมีขนาดใหญ่มากขึ้น  จุนักท่องเที่ยวได้ราว 3,000 – 5,000  คน เพื่อให้ตอบรับกับพฤติกรรมการท่องเที่ยว นักท่องเที่ยวที่ใช้บริการเรือสำราญจะเป็นกลุ่มคนที่มีรายได้สูงมาก   หากการทำตลาดเรือสำราญประสบความสำเร็จ   การเข้ามาของเรือสำราญลำหนึ่ง ๆ  จะสร้างรายได้ให้แก่ภาคตะวันออกเป็นจำนวนมาก”  นายกฤษฎา รัตนพฤกษ์  กล่าว

ด้านนโยบายไทยแลนด์ 4.0 นั้น เป็นการขับเคลื่อนประเทศไปพร้อม ๆ กัน  ตามนโยบายของรัฐบาล  โดยการสร้างงาน สร้างรายได้ ตั้งแต่ระดับชุมชนไปจนถึงผู้ประกอบการรายใหญ่ ๆ    ให้คนในชุมชนเรียนรู้พฤติกรรมนักท่องเที่ยว นักท่องเที่ยวเรียนรู้ชุมชน   ซึ่งทางททท.ได้นำเสนอการท่องเที่ยววิถีไทยผ่านการสร้างประสบการณ์ที่ประทับใจจากท้องถิ่นไทย (Local Experience) ซึ่งมีหลายระดับขึ้นอยู่กับความชื่นชอบที่แตกต่างกันของนักท่องเที่ยว เช่นการเข้าไปดูการเผาข้าวหลามแทนการจอดรถแวะซื้อเพียงอย่างเดียว   สัมผัสวิถีชาวสวนที่จังหวัดระยอง  ชมการร่อนพลอยที่จันทบุรี ชมการเลี้ยงหอยที่อำเภอขลุงก่อนการรับประทานอาหารซีฟู๊ดมื้ออร่อย การสัมผัสวิถีชุมชุนได้สร้างความประทับใจแก่นักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก จะเห็นได้ว่าจังหวัดจันทบุรี เมืองท่องเที่ยวเมืองรองนั้น มีนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นมาอย่างรวดเร็วในระยะเวลาอันสั้น   ส่วนพฤติกรรมการท่องเที่ยว คนไทยยังคงท่องเที่ยวในวันเสาร์ อาทิตย์  ช่วงวันหยุดยาว วันหยุดนักขัตฤกษ์เหมือนเดิม ซึ่งทางททท. ได้มีความพยายามอย่างต่อเนื่องที่จะจัดแพคเกจพิเศษสำหรับการท่องเที่ยวในวันธรรมดา เพื่อที่จะทำให้การใช้วันลาจากการทำงานนั้นคุ้มค่า  จะเห็นได้ว่าการท่องเที่ยวในวันธรรมดาจะไม่หนาแน่น ได้ซึมซับประสบการณ์บรรยากาศได้เต็มที่

 

นายกฤษฎา รัตนพฤกษ์  กล่าวต่อ “ ด้านระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก EEC (Eastern Economics Corridor)  รัฐบาลได้มองชลบุรี ฉะเชิงเทรา ระยอง ให้เป็นระเบียงเศรษฐกิจ ซึ่งทางรัฐบาล   ให้ข้อเสนอพิเศษเพื่อที่จะสร้างการลงทุนให้มากขึ้น  เริ่มต้นจากการลงทุน  การสร้างโรงงาน สร้างสายงานการผลิต  ซึ่งจะมีการจ้างงานและมีชาวต่างชาติเข้ามาทำงานพร้อมครอบครัวในภูมิภาคนี้   ซึ่งจะก่อให้เกิดการใช้จ่ายหมุนเวียนขึ้นในภาคตะวันออกอย่างมาก  การสร้างระเบียงเศรษฐกิจจะก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลง อาทิ การลงทุนเพิ่มด้านโรงแรม ห้างสรรพสินค้าชั้นนำ  สถานที่ท่องเที่ยวแหล่งใหม่ ๆ   การพัฒนาให้เกิดระเบียงเศรษฐกิจนั้น รัฐบาลยังได้มองเรื่องการบริหารจัดการด้านโลจิสติกส์เป็นเรื่องสำคัญอีกเรื่องหนึ่ง อาทิ ลงทุนเรื่องเรือเฟอร์รี่ที่เอารถยนต์บรรจุในท้องเรือได้ เพื่อจะเชื่อมให้เกิดความสะดวกสบายให้แก่เส้นทางท่องเที่ยวระหว่างประจวบคีรีขันธ์และพัทยา ผู้ที่ขับรถยนต์ส่วนตัวสามารถขับรถเที่ยวเองได้อย่างสะดวก และการสร้างรถไฟความเร็วสูง (High Speed Train) ระหว่างกรุงเทพ  – ฉะเชิงเทรา – มาบตาพุด และจะเชื่อมต่อไปถึงจันทบุรี ตราดในอนาคต  ด้านสิ่งแวดล้อมก็เป็นสิ่งสำคัญอีกเรื่องหนึ่งที่ต้องมีการควบคุม ดูแล ไม่ให้เสื่อมโทรมลงไป”

ด้านการส่งเสริมการตลาดให้แก่ผู้ประกอบการด้านโรงแรม ที่พัก รีสอร์ท ในภาคตะวันออกนั้นก็ยังเป็นกลยุทธ์ที่สำคัญกลยุทธ์หนึ่ง  สำหรับปี 60 นี้ จัดไปแล้วหลายครั้ง  ครั้งนี้มีผู้ประกอบการ 56 ราย สำหรับท่านที่สนใจการท่องเที่ยวในภาคตะวันออก เยี่ยมชมข้อมูลและการท่องเที่ยวภาคตะวันออกได้ที่ www.เที่ยวภาคตะวันออก.com  หรือโทร 1672