ศูนย์การค้าเซ็นทรัลทั่วประเทศ ผู้นำแลนด์มาร์คคริสต์มาสและปีใหม่ระดับโลกของไทย ‘Thailand’s Best Destination for Festive Celebration’ สร้างปรากฏการณ์ความสุขดีที่สุด ยิ่งใหญ่ที่สุดทุกจังหวัด กว่า 33 จุดทั่วไทย

ศูนย์การค้าเซ็นทรัลทั่วประเทศ ผู้นำแลนด์มาร์คคริสต์มาสและปีใหม่ระดับโลกของไทย ‘Thailand’s Best Destination for Festive Celebration’ สร้างปรากฏการณ์ความสุขดีที่สุด ยิ่งใหญ่ที่สุดทุกจังหวัด กว่า 33 จุดทั่วไทย

  • ยุทธ์เพื่อเดือนแห่งการฉลองทุกเทศกาลช่วงสิ้นปี ชูเอ็นเตอร์เทนเมนต์ Music Phenomenon จัดเทศกาลดนตรี-ของขวัญ ชวนเคาท์ดาวน์รูปแบบใหม่ อัดแคมเปญเซล – คืนภาษี ชวนช้อปแบบ Touchless ดันทราฟฟิกพุ่ง 20%
  • รับไฮซีซั่น เน้นย้ำมาตรการ “เซ็นทรัล สะอาด มั่นใจ” ใช้บิ๊กคลีนนิ่งในศูนย์ฯ Tourist Destination เมืองท่องเที่ยวหลักและเมืองรอง เต็มรูปแบบ

 

กรุงเทพฯ บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) รับเดือนแห่งการท่องเที่ยวหรือไฮซีซั่น ตอกย้ำผู้นำแลนด์มาร์กคริสต์มาสและปีใหม่ กว่า 33 จุดทั่วไทย 19 จังหวัด 4 ภาคทั่วประเทศ หรือ Thailand’s Best Destination for Festive Celebration ที่ดีที่สุดในประเทศ ชี้อานิสงส์การตลาดแบบ O2O ยังแข็งแกร่ง พร้อมอัดแคมเปญเซลกระตุ้นยอด-ช้อปพร้อมคืนภาษี-ช้อปแบบ Touchless พร้อมรับออนท็อปโปรโมชั่นสุดคุ้มแบบไม่อั้น เมื่อใช้บริการผ่านแอปพลิเคชั่น ดอลฟิน วอลเล็ท พร้อมชวนเคาท์ดาวน์รูปแบบใหม่ หน้าเซ็นทรัลเวิลด์และสาขาอื่นๆ ทั่วประเทศ สร้างปรากฏการณ์ Music Phenomenon มอบความสุขผ่านเสียงเพลง อัดแน่นศิลปินดังหลายรูปแบบกว่า 200 ชีวิต สมเป็นแลนด์มาร์กเคาท์ดาวน์ของทุกจังหวัดและประเทศไทยตลอดกาล พร้อมเดินหน้าคุมเข้มมาตราการ “เซ็นทรัล สะอาด มั่นใจ” ในทุกศูนย์ฯ โดยเฉพาะในศูนย์ฯ ที่เป็น Tourist Destination เมืองท่องเที่ยวหลักและเมืองรองเต็มรูปแบบ อาทิ เชียงใหม่ เชียงราย พัทยา ภูเก็ต เป็นต้น

ดร. ณัฐกิตติ์ ตั้งพูลสินธนา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการตลาด บมจ. เซ็นทรัลพัฒนา  กล่าวว่า “บรรยากาศช่วงไฮซีซั่น ปีนี้  ศูนย์การค้าเซ็นทรัลฟีดแบครีบาวน์ เผยทราฟฟิกเพิ่มสูงขึ้น กว่า 20 % บรรยากาศการช้อปปิ้งคึกคักและดันกราฟพุ่งอีกครั้งขึ้นทั้งในศูนย์การค้าและออนไลน์แชนแนล โดยการทำการตลาดแบบ Omni-channel  หรือ O2O ที่เชื่อมโยงทั้งออฟไลน์และออนไลน์ ยังคงเป็นทิศทางที่ถูกต้อง โดยเฉพาะแคมเปญเซล ที่จัดต่อเน่องกันถึง 5 แคมเปญ อย่าง 12.12 ที่จัดขึ้นระหว่างวันที่ 3-13 ธ.ค.63 ซึ่งจัดยาวนานกว่าในออนไลน์แพลตฟอร์มถึง 11 วัน และแคมเปญ BLACK FRIDAY ที่เพิ่งผ่านไปในเดือน พ.ย. ที่กราฟ โดยคาดว่าแคมเปญ  BOXING WEEK (24-27 ธ.ค.63) และ  FINAL CALL (4-10 ม.ค.64) จะยังได้รับความนิยมจากกลุ่มนักช้อปเป็นอย่างดีและต่อเนื่อง เพื่อเจาะกลุ่มเป้าหมาย อาทิ กลุ่ม YOLD และ Quality Traffic  ที่มีกำลังซื้ออย่าง Top spender ผ่านโปรแกรม CRM ของเราที่แข็งแกร่งเป็นอย่างมาก นอกจากนี้เรายังส่งเสริมการช้อปปิ้งแบบ Touchless งดสัมผัสพร้อมรับออนท็อปโปรโมชั่น เมื่อใช้บริการผ่านแอปพลิเคชั่น ดอลฟิน วอลเล็ท อีกด้วย

 

นอกจากนี้ เรายังดึงเสียงดนตรีเพื่อสร้างพลังร่วมและความสนุก จึงเสริมด้วยจุดแข็งของให้กับ Big Impact Event เราด้วย Entertainment strategy led by Music Phenomenon ใช้ดนตรีเป็นสื่อกลางและสื่อดึงดูดทุกคนให้เข้ามาสนุกด้วยกันในทุกพื้นที่ทั่วประเทศ นำโดยเซ็นทรัลเวิลด์ ซึ่งเป็น แลนด์มาร์กเอ็นเตอร์เทนเมนต์เคาท์ดาวน์ที่ดีที่สุดตลอดกาล สร้างปรากฏการณ์ Music wOrld Phenomena ระดับประเทศและระดับเวิลด์คลาส อุ่นเครื่องก่อนค่ำคืนเคาท์ดาวน์ไปกับ 7 Days 7 Splendid พบเทศกาลดนตรีหลายรูปแบบ รวมถึง Groove Endless Celebration สมการเป็น Hangout destination ใจกลางเมือง และฉลอง centralwOrld Bangkok Countdown 2021 ชมคอนเสิร์ตจากศิลปินดังเจ้าของเพลงฮิตติดชาร์ตและชม The Great Firework Display  ครั้งแรกกับโชว์ออร์เคสตราแบบเต็มวงสุดอลังการจากม.มหิดล Thailand Philharmonic Orchestra กว่า 100 ชีวิต จัดแสดงใต้ต้นคริสต์มาสยักษ์ที่สูงที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หน้าลานเซ็นทรัลเวิลด์ ต้อนรับวันคริสต์มาสอีฟ อย่างยิ่งใหญ่สวยงาม และคอนเสิร์ตจากศิลปินชั้นนำมากมาย นอกจากนี้ในจังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศยังปูพรมส่งความสนุกไปทั่วประเทศ

เรายังได้ยกบรรยากาศ Winter market เหมือนเมืองนอก จัดเทศกาลของขวัญ GIFTMAS 2020 ในทุกศูนย์ฯทั่วประเทศ รวมถึงเซ็นทรัล วิลเลจ ลักชูรี่ เอาท์เล็ต ใกล้สนามบินสุวรรณภูมิ ที่นำสินค้าแบรนด์เนมมาลดราคาสูงสุดถึง 90% พร้อมด้วยชุดของขวัญจัดเซ็ตในราคาลดพิเศษ อาทิ เซ็ตแฮมเปอร์ กิฟท์คอลเลคชั่น และเซ็ตทราเวลเอ็กซ์คลูซีฟ  เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการนำไปเป็นของขวัญจับฉลากและมอบให้กับคนที่คุณรักในช่วงส่งท้ายปี

 

ศูนย์การค้าเซ็นทรัลทั้ง 33 สาขาทั่วประเทศ พร้อมสร้างความมั่นใจในการมาช้อปปิ้งให้กับลูกค้าทุกคนในช่วงเดือนแห่งการเดินทางท่องเที่ยว ตอกย้ำการเป็นภาคเอกชนและธุรกิจศูนย์การค้ารายแรกๆ ที่สร้างมาตรฐานด้าน Hygiene & Safety ในเชิงรุกอย่างเป็นรูปธรรม ด้วยการริเริ่มแผนแม่บท “เซ็นทรัล สะอาด มั่นใจ” ใน 5 แกนหลักกว่า 75 มาตรการ ทั้งยังได้รับมอบตราสัญลักษณ์ SHA จากททท. สะท้อนการเป็นสถานที่ที่สะอาด ปลอดภัย และเป็นอันดับ 1 ในใจที่ลูกค้าเลือกมาใช้บริการโดยเฉพาะในศูนย์ฯ Tourist Destination เมืองท่องเที่ยวหลักและเมืองรองเต็มรูปแบบ อาทิ เชียงใหม่ เชียงราย พัทยา ภูเก็ต”