กองส่งเสริมผู้ประกอบการและธุรกิจใหม่ กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ร่วมกับสถาบันพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง กดปุ่มผลิตเถ้าแก่ใหม่ (SME Grow Forward) เพื่อป้อนผู้ประกอบการเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ

กองส่งเสริมผู้ประกอบการและธุรกิจใหม่ กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ร่วมกับสถาบันพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง กดปุ่มผลิตเถ้าแก่ใหม่ (SME Grow Forward) เพื่อป้อนผู้ประกอบการเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ เน้นธุรกิจและนวัตกรรมด้านการเกษตร เติมความรู้และยกระดับทุกทักษะที่ผู้ประกอบการต้องมีอาทิ การเขียนแผนธุรกิจ การตลาด การบัญชีและการเงิน การจัดตั้งธุรกิจ

นาย วิจักขณ์   รัตนสุวรรณ  ผู้อำนวยการกองส่งเสริมผู้ประกอบการและธุรกิจใหม่ กล่าวว่า “ภารกิจของกองส่งเสริมผู้ประกอบการและธุรกิจใหม่คือ การสร้างและพัฒนาให้เกิดผู้ประกอบการใหม่ ๆ ให้เข้าสู่ตลาด เพื่อเป็นหัวจักรในขับเคลื่อนทางเศรษฐกิจของประเทศได้อย่างแท้จริง ซึ่งจำเป็นจะต้องให้การสนับสนุน ส่งเสริมในหลายๆประเด็น ทั้งในเรื่องการเสริมสร้างโอกาสให้ผู้ประกอบการใหม่ที่มีศักยภาพในการพัฒนาต่อยอดความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ไปสู่ธุรกิจ รวมถึงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ ที่สำคัญในการประกอบธุรกิจ อาทิเช่น การจดจัดตั้งธุรกิจ  รูปแบบของแหล่งเงินทุนและสิทธิประโยชน์อื่นๆที่เอื้อกับรูปแบบของการดำเนินธุรกิจ การสร้างให้เกิดผู้ประกอบการใหม่มีความสำคัญอย่างยิ่ง   เนื่องจากเป็นสร้างความเจริญเติบโตให้กับระบบเศรษฐกิจ ก่อให้เกิดการจ้างงาน  การสั่งซื้อวัตถุดิบ เข้าสู่กระบวนการผลิตไปถึงจัดจำหน่าย ถือเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างแท้จริง”

ทางกรมส่งเสริมอุตสาหกรรมจึงได้จัดทำ“กิจกรรมถ่ายทอดความรู้ในการจัดตั้งและขยายธุรกิจ สาขาเกษตรแปรรูปและเทคโนโลยีชีวภาพ (SME Grow Forward)  ภายใต้โครงการสร้างและพัฒนาผู้ประกอบการใหม่เชิงสร้างสรรค์และนวัตกรรมโดยจัดรูปแบบกิจกรรมต่างๆ จากความต้องการของผู้ประกอบการรายใหม่ที่ได้จากการสำรวจเบื้องต้น ได้แก่ การพัฒนาผลิตภัณฑ์ การเข้าถึงแหล่งเงินทุน และความรู้พื้นฐานสำหรับการประกอบธุรกิจ ซึ่งทางกองส่ง เสริมผู้ประกอบการและธุรกิจใหม่ ได้นำความต้องการของผู้ประกอบการมาปรับในส่วนของเนื้อหาหลักสูตร เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจในการประกอบธุรกิจให้สามารถดำเนินธุรกิจได้อย่างก้าวกระโดดด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรม รวมถึงการออกแบบผลิตภัณฑ์ต้นแบบที่มีมูลค่าสูงขึ้น และยังสร้างโอกาสในการเชื่อมต่อผู้ประกอบการใหม่กับนักลงทุนหรือแหล่งเงินทุนที่สนใจ ซึ่งรูปแบบการพัฒนาผู้ประกอบการใหม่นี้จะช่วยให้ผู้ประกอบการมีความสามารถและมีแนวทางในการบริหารธุรกิจที่เป็นมาตรฐาน สากลและมีความยั่งยืน

นายวิจักขณ์   รัตนสุวรรณ์     กล่าวต่อว่า “กิจกรรมถ่ายทอดความรู้ในการจัดตั้งและขยายธุรกิจ สาขาเกษตรแปรรูปและเทคโนโลยีชีวภาพ(SME Grow Forward) ภายใต้โครงการสร้างและพัฒนาผู้ประกอบการใหม่เชิงสร้างสรรค์และนวัตกรรมที่จัดขึ้นครั้งนี้เป็นครั้งแรก ทางกอง ฯ ได้รับความร่วมมือกับสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง  ซึ่งถือว่าเป็นหน่วยร่วมดำเนินการในจัดกิจกรรมต่างๆตามความต้องการของผู้ประกอบการรายใหม่ ทั้งยังเป็นสถาบันการศึกษาที่มีนักวิจัยและคณาจารย์ที่มีชื่อเสียงระดับประเทศอยู่หลายท่านและมีความพร้อมทั้งทางด้านวิชาการและเทคโนโลยีในการที่จะถ่ายทอดวิทยาการ

 

 

ให้แก่ผู้ประกอบการ ครั้งนี้ ทางกอง ฯ จะเน้นไปที่การสร้างผู้ประกอบการในสาชาเกษตรแปรรูปและเทคโนโลยีชีวภาพ   ในปีนี้เราจะได้เห็นความคิดสร้างสรรค์ของผู้ประกอบการอีกมากเมื่อได้เข้าร่วมโครงการฯดังกล่าว

สำหรับกลุ่มเป้าหมาย ทางกองฯได้เปิดกว้างให้แก่บุคคลหลากหลายกลุ่ม  ประกอบด้วย

  • ผู้ประกอบอาชีพอื่นอยู่แล้ว เช่น ข้าราชการ พนักงาน  ผู้ประกอบวิชาชีพอิสระ (เช่น สถาปนิก วิศวกร) หรือผู้รับจ้างอิสระ (Freelance) หรือบุคคล/กลุ่มคนที่เป็นเม็กเกอร์ (Maker) และตั้งใจจะเปลี่ยนมาเป็นผู้ประกอบการ
  • ทายาทเจ้าของกิจการที่เตรียมตัวเข้ารับการสืบทอดกิจการหรือร่วมบริหารกิจการด้วยการขยายกิจการหรือจัดตั้งธุรกิจใหม่เป็นของตนเอง
  • ผู้ประกอบการที่เริ่มต้นประกอบธุรกิจ โดยเริ่มประกอบการมาแล้วไม่เกิน 5 ปีและมีความต้องการที่จะพัฒนาโมเดลธุรกิจหรือสร้างผลิตภัณฑ์หรือบริการให้มีมูลค่าสูงขึ้น โดยนำเทคโนโลยีมาปรับประยุกต์และต่อยอดให้ธุรกิจเข้มแข็งและเติบโตได้อย่างมั่นคง
  • นักศึกษาจบใหม่ ซึ่งมีแนวคิดและตั้งใจจะเป็นผู้ประกอบการรุ่นใหม่ (Young Entrepreneur)

ด้าน ผศ. ดร  นพดล มณีรัตน์   หัวหน้าโครงการ “ กิจกรรมถ่ายทอดความรู้ในการจัดตั้งและขยายธุรกิจ สาขาเกษตรแปรรูปและเทคโนโลยีชีวภาพ (SME Grow Forward)  ภายใต้โครงการสร้างและพัฒนาผู้ประกอบการใหม่เชิงสร้างสรรค์และนวัตกรรม  กล่าวว่า  “หลักสูตรการอบรมในครั้งนี้ ได้ถูกออกแบบอย่างเป็นระบบ 4 กิจกรรมด้วยกันดังนี้ กิจกรรมปรับ Mind Set  ผู้ประกอบการรุ่นใหม่ในยุค 4.0 การถ่ายทอดความรู้ด้านการเขียนโมเดลธุรกิจ การนำเสนอโมเดลเพื่อเข้าถึงแหล่งเงินทุน การยกระดับผู้ประกอบการในการเข้าถึงแหล่งทุน   การดำเนินการอบรมจะดำเนินไปในช่วงระหว่างเดือนมีนาคม – กรกฎาคม 2562”  ซึ่งเป็นการฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการ โดยผู้เข้าอบรมที่จะเข้าในแต่ละกิจกรรมจะต้องผ่านการคัดเลือกอย่างโปร่งใสและเป็นธรรมจากคณะกรรมการจากทั้ง2หน่วยงาน โดยจะคัดเลือกจาก 300 ราย เหลือ 230 ราย   75 ราย และในกิจกรรมสุดท้ายจะเหลือเพียง 20 รายที่จะมีการยกระดับศักยภาพผู้ประกอบการในการเข้าถึงแหล่งทุนอย่างเข้มข้น

นาย ธนวิโรจน์ พิหูสูสุตร  หนึ่งในผู้เข้าร่วมอบรมโครงการ  SME Grow Forward  ในกิจกรรมถ่ายทอดความรู้ในการจัดตั้งและขยายธุรกิจ สาขาเกษตรแปรรูปและเทคโนโลยีชีวภาพ     กล่าวว่า     “ดีใจที่มาร่วมการอบรมในครั้งนี้   ได้ทราบข่าวโครงการนี้ เพราะเพื่อนแนะนำมา เพื่อนก็ทราบว่าเรามีความฝันที่อยากมีธุรกิจ ในส่วนตัวได้เริ่มทำผลิตภัณฑ์ไปแล้ว แต่ยังขาดคำแนะนำบางอย่าง  แรงบันดาลใจมาจากการที่เข้าไปชมโครงการส่วนพระองค์ที่สวนจิตรลดา  ได้เห็นโครงการของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช     พระองค์ได้ทรงสนพระทัยเกี่ยวกับพลังงานชีวะมวล กอปรกับ ทางผมได้มีแนวคิดที่อยากจะช่วยเกษตรกรให้มีรายได้ให้มีรายได้เพิ่มมากขึ้นด้วยการนำของที่ไม่ใช้แล้วมาทำประโยชน์    อย่างเช่น ตอซังข้าว ฟางข้าวหลังการเก็บเกี่ยวจากเดิมต้องเผาทิ้งหรือไถกลบ    กะลามะพร้าว ใบไม้ เศษวัสดุที่เกษตรไม่ใช้แล้ว  รวมถึงวัสดุ หลังจากเก็บเกี่ยวผลิตผลทางการเกษตร หรือปลายไม้ที่ได้จากการตัดแต่งกิ่ง ยกเว้นพลาสติก  ล้วนแต่นำมาใช้ประโยชน์และเพิ่มมูลค่าได้  ผมได้เรียนรู้วิธีการและที่จะนำตอซังข้าว กะลามะพร้าว ใบไม้ เศษวัสดุที่เกษตรไม่ใช้แล้ว ยกเว้นพลาสติก    มาทำเป็นถ่านอัดแท่ง พร้อมทั้งไปทดสอบค่าความร้อนมาแล้วจากกรมวิทยาศาสตร์บริการ ปรากฏว่ามีค่าความร้อนได้สูงกว่ามาตรฐานชุมชน    หลังจากที่ได้ผลิตออกมาแล้วได้ลองใช้ปรากฏว่าใช้ได้ผลดี         เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม   แต่เมื่อไปทดลองทำการตลาด ได้รับคำตอบปฎิเสธว่า การใช้มีความยุ่งยาก ทำให้ท้อถอยและเสียกำลังใจ แต่หลังจากที่ได้มาอบรม ทำให้รู้ว่า เราควรไปนำเสนอขายกับกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการ  ไม่ต้องการให้คนทั้งโลกเป็นลูกค้าแต่ขอให้คนที่มีความต้องการใช้ถ่านอัดแท่งนี้มาใช้ก็พอ เพราะคนที่จะใช้นี้ต้องมองถึงความเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และอยากช่วยเหลือเกษตรกร ให้เศรษฐกิจมาหมุนเวียนอยู่ในกลุ่มผู้ประกอบการเล็ก ๆ นอกจากนั้น โครงการนี้ยังได้ให้โอกาสที่จะทำให้

เราได้เข้าถึงแหล่งทุนได้ด้วย ก็ดีใจที่ได้เข้ามาร่วมโครงการ เพราะโครงการนี้จะมาเติมความฝันที่อยากจะสานต่อสิ่งที่พระองค์ท่านได้ทำตัวอย่างให้ดู  หากสินค้าได้รับการยอมรับ ไม่ใช่เพียงตัวเราที่จะมีรายได้ คนในชุมชนเดียวกับเราก็จะมีรายได้  ผู้ใช้ก็จะไม่ได้รับมลพิษ ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม และลดปัญหาการตัดไม้ทำลายป่า   ถ้ามีโอกาสดี ๆ มีโครงการที่จะให้ความรู้ในขั้นต่อไปก็จะมาเข้าร่วมอีก ได้ความรู้ ได้กำลังใจ มีที่ปรึกษาให้ทุกด้าน  ต้องขอขอบพระคุณกองส่งเสริมธุรกิจและผู้ประกอบการใหม่ กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม  สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าและคณาจารย์ทุกท่าน